STUDY ABROAD
Q & A
Q : หอพักปลอดภัยแค่ไหน? ลูกจะอยู่ไหวไหม?
A : หอพักในโรงเรียนอินเดียมีระบบดูแลความปลอดภัย 24 ชม. พร้อมคุณครูประจำหอ พี่เลี้ยง และกล้องวงจรปิดทั่วบริเวณ มีระบบเข้า-ออกหอพักชัดเจน
ผู้ปกครองสามารถขอรายงานหรือสอบถามการดูแลได้ตลอดเวลา
Q : ทำไมจบ ม.3 เมืองไทยจะต้องไปซ้ำ ม.3 ที่อินเดีย?
A : เนื่องจากระดับชั้นมัธยมปลายที่อินเดียเริ่มตั้งแต่ ม.3 และหลักสูตร IGCSE
จะเรียนควบคู่กันคือ ม.3 - ม.4 เลยไม่สามารถที่จะไปต่อในระดับชั้น ม.4 ได้
Q : ลูกไม่เก่งภาษาอังกฤษ จะตามเพื่อนทันไหม?
A : • โรงเรียนมีคลาสเสริมภาษา (ESL)
• ครูช่วยติวเสริมหลังเรียน
• เด็กจะได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน
• ส่วนใหญ่พัฒนาภาษาได้เร็วภายใน 1 เทอม
Q : ลูกจะได้ฝึกใช้ชีวิตด้วยตัวเองจริงไหม?
A : ได้แน่นอนค่ะ นักเรียนจะได้ฝึกวางแผนชีวิตประจำวัน เช่น การจัดตารางเรียน
การดูแลของใช้ส่วนตัว และการเข้าสังคมกับเพื่อนต่างวัฒนธรรม
พร้อมมีครูที่คอยดูแลอยู่ห่างๆ อย่างใกล้ชิด
Q : ในห้องเรียนมีนักเรียนอินเดียทั้งหมดเลยหรือเปล่า?
A : โรงเรียนที่ร่วมกับ TWS เป็นโรงเรียนนานาชาติ แต่ละโรงเรียนก็จะมีเด็กนักเรียนนานาชาติไม่เท่ากัน บางโรงเรียนมีมาก และบางโรงเรียนไม่มีเลย แต่ที่สำคัญทุกโรงเรียน
สื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก
Q : เด็กที่ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน จะปรับตัวยากไหม?
A : ไม่ยากเกินไปค่ะ ทาง TWS มีการเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง
และเมื่อถึงอินเดีย มีทีมต้อนรับคอยดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วงปรับตัว
Q : การบ้านและการสอบหนักไหม?
A : ขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เลือก เช่น IGCSE จะเน้นการวิเคราะห์และการทำโปรเจกต์มากกว่าการท่องจำ TWS จะช่วยแนะนำหลักสูตรที่เหมาะกับแต่ละคน
Q : IGCSE เรียนยากไหม?
A : หลักสูตร IGCSE ถูกออกแบบมาเพื่อฝึกให้เด็กคิดวิเคราะห์ และเข้าใจเนื้อหาจริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ จึงอาจรู้สึกว่า “ยาก” ในช่วงแรก โดยเฉพาะถ้ายังไม่คุ้นกับภาษาอังกฤษหรือระบบสากล แต่เมื่อปรับตัวได้ จะสนุกกับการเรียนมากขึ้น เพราะมีการเรียนแบบลงมือทำ และเน้นทักษะจริง
ทางโรงเรียนจะมีครูดูแลอย่างใกล้ชิด และนักเรียนต่างชาติหลายคนก็สามารถเรียนได้ดีเมื่อได้ระบบสนับสนุนที่เหมาะสม
Q : หลักสูตร IB เหมาะกับเด็กแบบไหน?
A : IB หมาะกับเด็กที่…
• ชอบคิดวิเคราะห์ ไม่เน้นท่องจำ
• กล้าคิด กล้าแสดงความคิดเห็น
• สนใจเรียนรู้รอบด้าน เพราะ IB ให้เรียนหลายวิชา ทั้งวิทย์ ศิลป์ ภาษาที่สอง และวิชาคิดวิเคราะห์
• พร้อมรับความท้าทาย เพราะหลักสูตรเข้มข้น ต้องทำวิจัย เขียนเรียงความ และทำกิจกรรมนอกห้องเรียนควบคู่กัน
เหมาะมากสำหรับเด็กที่อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ เพราะได้รับการยอมรับทั่วโลก
Q : เด็กไทยจะปรับตัวยังไงไหวกับอินเดีย?
A : โรงเรียนมีระบบดูแลนักเรียนต่างชาติอย่างดี มีเพื่อนทั้งชาวไทยและต่างชาติหลากหลายเชื้อชาติ รวมถึงคนอินเดียที่คุ้นเคยกับนักเรียนต่างชาติ คุณครูที่ช่วยดูแลเรื่องการปรับตัว
ทั้งภาษา การเรียน และการใช้ชีวิตประจำวัน
Q : นักเรียนไทยคนอื่น ๆ อยู่ด้วยกันหรือแยกกันอยู่?
A : ขึ้นอยู่กับโรงเรียน แต่ส่วนใหญ่จะจัดให้อยู่ใกล้ชิดกันในช่วงแรก เพื่อให้ปรับตัวง่าย แล้วค่อยๆ เปิดโอกาสให้รู้จักเพื่อนใหม่จากหลายประเทศ
Q : อากาศที่บังกาลอร์เป็นอย่างไร? ลูกจะปรับตัวได้ไหม?
A : บังกาลอร์มีอากาศดีตลอดปี อุณหภูมิไม่ร้อนจัดหรือหนาวเกินไป กลางวันประมาณ 25–30°C กลางคืนเย็นสบาย อยู่สบายและเหมาะกับการเรียนมากค่ะ ลูกจะค่อยๆ ปรับตัวได้ไม่ยากเลย
Q : ที่โรงเรียนมีกิจกรรมกีฬาหรือเปล่า? ลูกจะได้ออกกำลังกายไหม?
A : โรงเรียนมีกิจกรรมกีฬาและคลับต่างๆ ให้เลือกหลากหลาย เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล ว่ายน้ำ แบดมินตัน หรือโยคะ นักเรียนสามารถเลือกเข้าร่วมตามความสนใจได้ เพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกายและฝึกสมาธิ และทักษะการทำงานเป็นทีม
Q : นอกจากกีฬาแล้ว ที่โรงเรียนมีกิจกรรมสร้างสรรค์หรือกิจกรรมเสริมอื่นๆ ไหม?
A : โรงเรียนมีคลับและกิจกรรมเสริมมากมายให้นักเรียนเลือกเข้าร่วมตามความสนใจ เช่น ดนตรี ศิลปะ การแสดง ทำอาหาร งานออกแบบ หรือถ่ายภาพ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยพัฒนาทักษะรอบด้าน
และเปิดโอกาสให้นักเรียนค้นพบความถนัดของตนเอง
Q : ลูกไม่กินเผ็ด จะกินอะไรได้บ้าง?
A : มีอาหารไม่เผ็ดให้เลือกทุกมื้อ เช่น ข้าว ไข่ ต้มซุป รวมถึงนมที่มีให้ทุกเช้าเย็น
เด็กไทยสามารถนำอาหารสำเร็จรูป มาทานร่วมกันที่โรงอาหารได้
เด็กไทยส่วนใหญ่ปรับตัวได้ไว และบางคนยังชอบอาหารอินเดียด้วยซ้ำ!
Q : มีคนดูแลเวลาเจ็บป่วยหรือไม่สบายไหม?
A : โรงเรียนมีคุณครูประจำดูแลใกล้ชิด และพยาบาลในพื้นที่ หากจำเป็น
สามารถพาไปโรงพยาบาลทันที พร้อมรายงานให้ผู้ปกครองทราบอย่างรวดเร็ว
Q : ถ้าลูกคิดถึงบ้าน หรือรู้สึกเครียด จะมีใครดูแลไหม?
A : มีครูที่ปรึกษาและเพื่อนรุ่นพี่คอยดูแลใกล้ชิด พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักเรียนสามารถติดต่อครอบครัวได้สม่ำเสมอ ผ่านโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลโดยระยะเวลาในการใช้อุปกรณ์สื่อสาร
จะเป็นไปตามระเบียบที่โรงเรียนกำหนด
Q : เรียนอินเดีย ดียังไง?
A : อินเดียเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และหลักสูตรการเรียนการสอน
ได้มาตราฐานสากล หลักสูตร ICSE รัฐบาล และ หลักสูตรอินเตอร์นานาชาติ
Cambridge IGCSE และ IBDP อีกทั้งมีค่าเล่าเรียนที่ถูกกว่าเมืองไทย และ โรงเรียนปลอดภัย
Q : ระบบเรียนที่อินเดียยากไหม ลูกจะเรียนทันหรือเปล่า?
A : หลักสูตรเป็นสากล และมีครูคอยเสริมให้เข้าใจเนื้อหา เด็กไทยหลายคนเริ่มจากพื้นฐานไม่แข็งแรง
แต่ค่อยๆ พัฒนาจนเรียนได้ดี
Q : ควรจะส่งลูกไปในช่วงระดับชั้นไหนดี?
A : ส่วนมากทางโรงเรียนประจำในอินเดียจะรับสมัครนักเรียนตั้งแต่ เกรด3 คือ ระดับชั้น ป.3
ยิ่งไปตั้งแต่เล็กเด็กๆจะปรับตัวได้ไวมากค่ะ ทั้งเรื่องของภาษา และ สิ่งแวดล้อมต่างๆ
Q : โรงเรียนเรียนอินเดีย ปลอดภัยไหม?
A : โรงเรียนประจำในอินเดียมีความปลอดภัยมากๆค่ะ ทั้งการเช็คคนนอกเข้าพบคนในโรงเรียน และเด็กๆประจำในโรงเรียนเวลาออกไปด้านนอกต้องขออนุญาติก่อนทุกครั้ง และต้องได้รับการอนุญาตจากผู้อำนวยการโรงเรียน รวมถึงทางเอเจนซี่ต้องส่งอีเมลล์ขออนุญาตทุกครั้งที่มีการพานักเรียนออกนอกโรงเรียน และถ้าผู้ปกครองจะขอเข้าพบเด็ก ๆก็ต้องขออนุญาตก่อนเช่นกันค่ะ
Q : ควรเรียนหลักสูตรไหนดี?
A : ประเทศอินเดียมีหลายหลักสูตรการศึกษา เช่น
1. ICSE , CBSE เป็นหลักสูตรรัฐบาลของอินเดียเรียนเป็นภาษาอังกฤษ 100% แต่จะมีวิชาภาษาฮินดีเข้ามาด้วย และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างถูกกว่าหลักสูตรอินเตอร์
2. หลักสูตรอินเตอร์ Cambridge UK , IBDP มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าระบบรัฐบาล
และเรียนง่ายกว่า เหมาะสำหรับไปต่อยอดประเทศอื่นๆในอนาคต หรือเรียนต่อในประเทศอินเดีย
Q : โรงเรียนอินเดียเปิดเดือนไหน?
A : โรงเรียนอินเดียระบบอินเตอร์จะเปิดช่วงต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี
และหลักสูตรรัฐบาลจะเปิดช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี
Q : ระบบ Pre-University คืออะไร?
A : ระบบ Pre-University คือเทียบเท่า ม.5 - ม.6 เตรียมเข้ามหาวิทยาลัยในอินเดียโดยเฉพาะ
ซึ่งเด็กๆที่เรียนระบบนี้จะเลือกสายเรียนเพื่อต่อยอดไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย
จึงเน้นการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับในมหาวิทยาลัยในอินเดียโดยตรง
Q : ทำไมถึงให้เด็กๆไปลอง Summer Camp ก่อน?
A : เนื่องจาก Summer Camp ของทางเราเด็กๆได้ไปลองนั่งเรียนในชั้นเรียนแยกชั้นตามอายุ และอยู่กินประจำเสมือนเด็กหอในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อเรียนรู้การเป็นอยู่ของเด็กนักเรียนประจำจริงๆ และน้องๆสามารถเรียนรู้ได้ว่าจะอยู่ และ เรียนได้หรือไม่